MU: Dark Epoch
MU: Dark Epoch Class Guide - คลาสไหนจะพาคุณก้าวสู่ชัยชนะ!
MU: Dark Epoch เป็นสุดยอดเกม MMORPG ที่ผู้เล่นจะได้ร่วมผจญภัยพร้อมกันในโลกแฟนตาซีอันกว้างใหญ่ สัมผัสกับการต่อสู้สุดตื่นเต้น ปราบมอนสเตอร์เก่งกาจ และรวมพลังกับเหล่าผู้เล่นคนอื่นเพื่อโจมตีเหล่าบอสยักษ์ในเรดขนาดใหญ่ การเลือกคลาส (Class) ที่เหมาะสมจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ตัวละครของคุณแข็งแกร่ง และพร้อมยืนหยัดในสนามรบได้อย่างแท้จริง
สารบัญ (Table of Contents)
1. MU Dark Epoch Classes Guide - ภาพรวมที่คุณควรรู้
2. Dark Knight
3. Dark Wizard
4. Elf
5. MU Dark Epoch Classes Guide - เลือกคลาสไหนดี
- สำหรับสายแทงค์ที่ต้องการความทนทาน (Tanky Builds)
- สำหรับสายโจมตีหลัก (Offensive Builds)
- สำหรับสายสนับสนุนและดีบัฟ (Support & Debuff Builds)
MU Dark Epoch Classes Guide - ภาพรวมที่คุณควรรู้
เมื่อเริ่มเกม MU: Dark Epoch ผู้เล่นจะได้เลือกคลาสพื้นฐานที่มีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันออกไป ในขณะที่คุณพัฒนาตัวละครและเลื่อนระดับเลเวลไปเรื่อย ๆ ก็จะสามารถ ปลดล็อกสกิลใหม่ และ อัปเกรดคลาส ให้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม ๆ ได้ การเลือกว่าอยากเล่นคลาสใดจึงควรคำนึงถึงรูปแบบการเล่น (Playstyle) และแนวทางการจัดทีม (Team Composition) ที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็น สายบู๊ระยะประชิด, สายเวทโจมตีระยะไกล หรือ สายสนับสนุนเพื่อนร่วมทีม
คลาสหลักที่มีให้เลือกในเกม ได้แก่ Dark Knight, Dark Wizard, และ Elf โดยแต่ละคลาสมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่ตอบสนองสไตล์การเล่นแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
Dark Knight
Dark Knight คือคลาสสายโจมตีระยะประชิดที่เน้น พลังโจมตีทางกายภาพ สามารถรับมือศัตรูจำนวนมากได้ดี เพราะมีท่าคอมโบรวดเร็วและมีสกิลดูดเลือด (Lifesteal) ที่ช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตไปพร้อมกับการโจมตี อาวุธหลักคือ ดาบ (Sword) และ ขวาน (Axe) สามารถถือคู่ได้เพื่อโจมตีในระยะกว้าง
ด้วยความที่เป็น สายประชิด จึงจำเป็นต้องอัปค่าสเตตัส Strength และ Stamina เป็นหลัก เพื่อให้ร่างกายแข็งแกร่งและทนแรงปะทะได้ดี ขณะเดียวกันการเพิ่ม Attack Speed และ Physical Attack ก็จะยิ่งช่วยเสริมศักยภาพในการทำดาเมจได้รวดเร็วและรุนแรงขึ้น
เมื่อถึงเลเวลที่กำหนด Dark Knight จะสามารถก้าวสู่คลาสขั้นสูงยิ่งขึ้น ได้แก่:
- เลเวล 120 : พัฒนาเป็น Dark Knight Advanced Class เลือกเส้นทางสาย Ruthlessness (เน้นสกิลดาเมจและการโจมตี) หรือ Will to Retaliate (เน้นการโต้กลับและลดความเสียหาย)
- เลเวล 200 : อัปเกรดเป็น Soul Knight เลือกได้ระหว่าง Defense Shield (เน้นการป้องกัน) หรือ Bloodlust (เน้นการดูดเลือดและการโจมตี)
Dark Wizard
Dark Wizard เป็นคลาสสายโจมตีระยะไกล ใช้ เวทมนตร์ และ คทา (Staff) เป็นอาวุธหลัก ความโดดเด่นอยู่ที่สามารถ โจมตีศัตรูหมู่ ด้วยสกิลทรงพลังและปล่อยดีบัฟ (Debuff) อย่างการควบคุมฝูงชน (Crowd Control) ซึ่งช่วยหยุดยั้งหรือบั่นทอนศัตรูได้
เนื่องจากเป็นคลาสที่ใช้ มานา สูง จึงควรเน้นค่า Energy เพื่อเพิ่มปริมาณมานาในการใช้สกิล ส่วน Agility ก็สำคัญในการหลบหลีกและเคลื่อนไหวอย่างคล่องตัว หลีกเลี่ยงการโดนศัตรูประชิดตัว
เมื่อบรรลุเงื่อนไขเลเวลแล้ว Dark Wizard จะสามารถเลื่อนขึ้นสู่คลาสที่แข็งแกร่งกว่า คือ:
- เลเวล 120 : พัฒนาเป็น Archmage เลือกระหว่าง Spatiotemporal Control (ลดคูลดาวน์และสแปมสกิล) หรือ Poison Veterancy (ใช้พิษและดาเมจต่อเนื่อง)
- เลเวล 200 : อัปเป็น Soul Mage เลือกได้ 2 สายคือ Spatiotemporal Knowledge (สแปมสกิลรัว ๆ) และ Poison Shield Veterancy (เน้นพิษและการป้องกันด้วยพาร์รี)
Elf
Elf เป็นคลาสสายยิงไกลที่สามารถ โจมตีด้วยธนู ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทั้งยังมีสกิลโจมตีหมู่ (AoE) เพื่อกวาดศัตรูเป็นวงกว้าง การโจมตีจากระยะปลอดภัยบวกกับความว่องไวทำให้ Elf สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องตัว
สเตตัสที่ควรเน้นคือ Agility และ Energy เพื่อรองรับการใช้สกิลถี่ ๆ และเพิ่มความเร็วในการยิง ให้โจมตีได้ต่อเนื่อง นอกจากนี้การเสริม Attack และ Attack Speed ก็สำคัญไม่แพ้กันในการเร่งดาเมจ
พอถึงเลเวลสูงขึ้น Elf จะปลดล็อกคลาสขั้นสูงได้ โดยมีตัวเลือกที่แตกต่างกันตามแนวทางการต่อสู้ คือ:
- เลเวล 120 : พัฒนาเป็น Muse Elf เลือกได้ระหว่าง Blast Wind (เน้นหลบหลีกและพาร์รี) หรือ Deadly Hit Veterancy (เน้นการโจมตีที่แม่นยำและรุนแรง)
- เลเวล 200 : อัปเป็น Soul Elf เลือก Summon Veterancy (เรียกซัมมอนเสริม) หรือ Nimble Veterancy (เน้นความเร็วและการหลบหลีก)
MU Dark Epoch Classes Guide - เลือกคลาสไหนดี
หลังจากรู้จักคลาสหลัก ๆ ในเกม MU: Dark Epoch แล้ว หลายคนคงสงสัยว่าจะเลือกคลาสอะไรดี เรามีคำแนะนำแบ่งตามสไตล์การเล่น ดังนี้
1. สำหรับสายแทงค์ (Tanky Builds)
หากคุณเป็นคนที่ชอบตัวละคร “ถึก” มีหน้าที่รับดาเมจแทนเพื่อน และป้องกันทีม Dark Knight ถือเป็นตัวเลือกสุดคลาสสิก เพราะมีสกิลที่ช่วย สนับสนุนการป้องกันทีม พร้อมความอึดระดับสูง แนะนำให้เลือกสาย Will to Retaliate และ Defense Shield เพื่อเพิ่มความทนทานในไฟท์สุดโหด
2. สำหรับสายโจมตี (Offensive Builds)
ถ้าคุณชอบเป็น “ปืนใหญ่” ของทีม หรือ DPS หลักในการต่อสู้ ลองเล่น Dark Knight สายโจมตี โดยเลือกแนว Ruthlessness ผสานกับ Bloodlust เพื่อสร้างดาเมจสูง ควบคู่กับการดูดเลือดกลับมาเป็นพลังชีวิตอย่างต่อเนื่อง
ส่วนใครต้องการยิงระยะไกลและทำคริแรง ๆ Elf ก็เหมาะที่สุด โดยเฉพาะการจัดชุดสกิลในสาย Deadly Hit Veterancy ร่วมกับ Summon Veterancy จะช่วยให้คุณอัดดาเมจใส่ศัตรูได้เต็มที่ และยังเรียกยูนิตสนับสนุนช่วยทำดาเมจเสริมได้อีก
3. สำหรับสายซัพพอร์ตและดีบัฟ (Support & Debuff Builds)
ถ้าคุณเป็นคนชอบสนับสนุนทีมและทำให้ศัตรูอ่อนแอ Dark Wizard คือคำตอบ เพราะสามารถสแปมสกิลบัฟ เพิ่มพลังให้พวกพ้อง และ ดีบัฟฝั่งศัตรู ให้โจมตีหรือเคลื่อนไหวลำบาก ส่งผลให้ทีมรวมพลังทำดาเมจได้สะดวกและรุนแรงยิ่งขึ้น
บทสรุป
ไม่ว่าคุณจะเลือกเป็น Dark Knight ผู้ทรงพลังระยะประชิด, Dark Wizard จอมเวทย์พร้อมสนับสนุน-ดีบัฟ หรือ Elf สุดว่องไวสายยิงไกล การรู้จักจุดเด่นของคลาสและเส้นทางการพัฒนา (Advanced Class) จะทำให้คุณสร้างตัวละครที่เหมาะกับสไตล์การเล่นได้เป็นอย่างดี อย่าลืมปรับแต่งค่าสเตตัสและสกิลให้ตอบโจทย์การต่อสู้ เพื่อคว้าชัยในการร่วมตะลุยดันเจี้ยนหรือเรดบอสกับเพื่อน ๆ ใน MU: Dark Epoch ได้อย่างสมบูรณ์แบบ!